โฆษณา

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

ไฟไหม้บ้าน! ภัยร้ายเงียบจากหนูกัดแทะสายไฟ !

ไฟไหม้บ้าน! ภัยร้ายเงียบจากหนูกัดแทะสายไฟ !
 

 
 
        วันนี้ผมมีเรื่องจะนำเสนอเป็นบทความสั้นๆ ให้กับท่านผู้อ่านได้ทราบว่า สาเหตุสำคัญสิ่งหนึ่งซึ่งหลายท่านอาจยังไม่ทราบเกี่ยวกับข่าวการเกิดเหตุ เพลิงไหม้สถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียน อาคารไม้ ห้องแถวเก่าแก่บางแห่งเป็นต้น ว่าต้นตอจริงๆ มาจากสาเหตุอะไรกันแน่?


ตัวอย่างข่าวที่เคยนำเสนอ :


      หนูกัดสายไฟห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียน ตชด.ไฟฟ้าช็อต เพลิงไหม้อาคารโสภณพานิช วอดทั้งหลัง พนักงานสอบสวนเปิดเผยว่า สาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดจากการวางเพลิง หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองแต่อย่างใด เพราะเท่าที่ได้รับรายงานทราบว่า น่าจะเกิดจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เพราะ หนูแอบเข้าไปกัดสายไฟ เพราะในช่วงที่เกิดเหตุนั้นครู ตชด.นอนเฝ้าเวรที่โรงเรียนตามปกติทุกคืน และก่อนหน้านั้นครูที่โรงเรียนแจ้งว่าได้กลิ่นหนูตายมาก่อนหน้าหลายวัน แต่หาซากไม่พบ ซึ่งอาจจะเกิดจากไฟช๊อตจนเสียชีวิต และเป็นผลให้สายไฟฟ้าในห้องคอมพิวเตอร์เสียซึ่งเป็นที่มาของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว
 
 
 
 
เหตุผลที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นผลงานของเจ้าฟันแทะ


1.นิสัยในการกัดแทะของหนูนั่นเอง สายไฟคือสิ่งที่เหมาะแก่การลับฟันแทะของมันที่สุดก็ว่าได้ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่เก็บสายไฟฟ้าอย่างง่ายๆ เช่น บนฝ้าเพดานที่ลากสายไฟฟ้าระโยงระยาง ไม่ร้อยเก็บสายให้สามารถป้องกันหนูกัดแทะได้ และเป็นที่ทราบว่าหนูที่เป็นตัวการสำคัญ ก็คือ หนูท้องขาวหรือหนูหลังคา นั่นเอง ด้านบนฝ้าเพดานเป็นเขตที่พักอาศัยของพวกมันโดยเฉพาะ แล้วมันจะไปเหลืออะไร
2.เมื่อมีการลัดวงจรของไฟฟ้าภายในบ้าน โดยมั่นใจว่าสายไฟฟ้าของเราได้มาตรฐานตามระยะเวลาของอายุที่ใช้งาน พันสายไฟฟ้าอย่างดีแล้ว มีกลิ่นเหม็นไหม้จากหนูตายโชยมาแล้วละก้อ เป็นเค้าแน่ๆ
3.มีเสียงวิ่งกัดกันของหนูบนฝ้าเพดานอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน แสดงว่าพวกมันต้องเริ่มใช้ฟันกัดแทะสิ่งของต่างๆที่ขวางหน้าต่อไปแน่นอน เพื่อให้ฟันของมันสั้น ได้ขนาดเหมาะกับปากมันนั่นเอง
4.ปริมาณเศษอาหารที่มีในบ้าน ถูกกัดแทะกินเป็นรอยให้พบเห็นอยู่เสมอ แสดงว่ามีหนูอาศัยอยู่จำนวนมาก ยิ่งอาหารมีความสมบูรณ์ ก็ยิ่งทำให้ฟันของหนูงอกยาวเร็วขึ้นไปด้วย การกัดแทะก็ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งสายไฟฟ้าเก่าๆที่เริ่มหมดสภาพ กลิ่นมันจะหอมเตะจมูกหนูดีนักแล แทะก็อร่อยเหลือเกิน


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายไฟฟ้า

เปลือกชั้นนอกหรือฉนวนที่ใช้หุ้มสายไฟฟ้า ปัจจุบันทำจากพีวีซี ซึ่งมีความแข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนาน ปกติถ้าเราไม่ใช้กระแสไฟมากเกินกว่าขนาดของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ หรือหนูไม่มากัดแทะสายไฟ สายไฟที่ได้มาตรฐานจะมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า15-20ปี แต่ถ้าปล่อยให้ถูกกระแทก ตากแดดตากฝน หรือโดนรังสียูวีเล่นงานเป็นประจำ สายไฟจะมีอายุการใช้งานไม่เกิน10ปี แต่ถ้าเดินสายไฟแบบร้อยท่อก็พอช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟได้นานถึง 30 ปีทีเดียว
 
 
 
 
ปกติการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรเกิดจากการที่ สายไฟบ้านที่มีต่างศักย์หรือแรงดันไฟฟ้าต่างกันมาแตะกัน โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง เช่นต้นไม้หรือกิ่งตั้นไม้ล้มหล่นทาบสายไฟสองสายดังกล่าว งูเลื่อยผ่านสายที่เปลือยสองสายดังกล่าว สำหรับภายในอาคารโอกาสที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือที่เรียกว่าไฟช็อตนั้น อาจเกิดจากสาเหตุความบกพร่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุบัติเหตุ เช่น หนูกัดสายไฟแล้วอาจเป็นไปได้ว่า ทำให้สองสายมาแตะกัน การลัดวงจรในลักษณะดังกล่าว เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ฟิวส์ที่ใช้ป้องกันไฟฟ้าผ่านเกินขนาดจะขาด จากนั้นเราต้องหาสาเหตุที่ทำให้ฟิวส์ขาดและแก้ไขให้เป็นปกติ
 
 
ข้อแนะนำดีๆจาก โฮม เยลโล่เพจเจส
สายไฟภายในบ้าน ควรเปลี่ยนเมื่อไร
หลายคนอาจมองว่าไม่สำคัญหรือเห็นเป็นเรื่องยาก เลยไม่ได้ใส่ใจ แต่ระบบไฟฟ้าภายในบ้านเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ส่วนมากเพื่อความปลอดภัยการเรียกช่างไฟฟ้าถือส่าเป็นวิธีที่อุ่นใจที่สุด แต่บางสิ่งบางอย่างหากเป็นเรื่องง่ายๆ ก็อาจตรวจสอบเองได้ อาทิ
จุดต่อสาย
ตรวจสอบจุดต่อสายในการเข้าสายต้องขันให้แน่นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
อุณหภูมิของสาย
สังเกตอุณหภูมิของสายโดยใช้การสัมผัสที่ผิวฉนวนของสาย ถ้ารู้สึกอุ่นหรือร้อนแสดงว่ามีสิ่งผิดปกติ อาจเนื่องจากใช้ไฟเกินขนาดของสาย หรือมีจุดต่อสายต่างๆ ไม่แน่น เช่น บริเวณปลั๊กไฟ เต้ารับ สวิตช์ เป็นต้น
สีของเปลือกสาย
สังเกตสีของเปลือกสายไฟ ถ้าสายไฟบางเส้นมีสีเปลี่ยนไป เช่น สีขาวเปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือมีฝุ่นจับมาก แสดงว่ามีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ อาจมีการใช้ไฟเกินขนาดสายหรือมีการต่อสายไม่แน่น เป็นต้น
ฉนวนของสายไฟฟ้า
ฉนวนของสายไฟฟ้าต้องไม่มีการแตกกรอบ ไม่มีรอยไหม้ ชำรุด ถ้าพบควรหาสาเหตุแล้วแก้ไขสาเหตุ พร้อมเปลี่ยนสายใหม่
สภาพของสายไฟฟ้า
หมั่นตรวจสอบสภาพของสายไฟฟ้าปีละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย โดยให้มีการบันทึกข้อมูลการตรวจสภาพไว้ทุกครั้งด้วย
ขนาดของสายไฟฟ้า
กรณีที่มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ควรตรวจสอบขนาดของสายไฟฟ้าที่ใช้อยู่ว่าเหมาะสมหรือไม่
ถ้าขนาดสายไม่เพียงพอต้องเปลี่ยนใหม่
ตรวจสอบสายไฟ
ตรวจสอบสายไฟบริเวณที่ทะลุผ่านฝ้าเพดานหรือผนัง อาจมีรอยหนูแทะเปลือกของสายทำให้เกิดลัดวงจรและเกิดไฟไหม้ได้
หากท่านพันสายไฟเอง ควรเลือกใช้เทปพันสายไฟที่ได้มาตรฐาน เนื้อกาวคุณภาพดีไม่เหนียวเยิ้ม และเวลาพันจะต้องยืดเนื้อเทปออกตามยาว จนหน้ากว้างเทปลดลงเหลือประมาณ 3 ใน 4 เมื่อพันถึงรอบสุดท้ายให้พันเทปโดยไม่ต้องดึงอีกหนึ่งรอบ แล้วตัดเทปด้วยมีดหรือกรรไกร ไม่ควรดึงเทปให้ขาดด้วยแรงดึง เพราะจะทำให้ปลายเทปย่น น้ำหรือความชื้นจะสามารถเข้าไปทำลายกาวของเทป ซึ่งจะทำให้เทปหลุดล่อนออกมา
 
 




ที่มา: http://ratthaicontrol.blogspot.com
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น